หัวข้อ: รีสอร์ทบุกรุกอุทยานจำเป็นต้องรื้อจริงหรือ?
มีประชาชนจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสงสัยว่าการทุบ
ทำลาย และรื้อถอนรีสอร์ทซึ่งสร้างเสร็จแล้วออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานนั้นเป็นทางออกทางเดียวที่ดีที่สุดแล้วหรือไม่
เนื่องจากรีสอร์ทที่สร้างเสร็จแล้วเหล่านั้นนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว
ยังช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้จากนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง จนเกิดคำถามว่าเช่นนี้แล้วรัฐจะรับมอบรีสอร์ทที่ผิดกฎหมายเหล่านั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ
แล้วค่อยปล่อยให้ผู้ประกอบการเช่าในฐานะอาคารราชพัสดุได้หรือไม่
ในกรณีเช่นนี้ได้มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การรับมอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อหาประโยชน์ในกิจการของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องเสร็จที่
0444/2553 วินิจฉัยว่าการที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท
ซึ่งเป็นเอกชนเข้าไปดำเนินการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินของรัฐที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ
และได้ดำเนินการในภายหลังที่มีการกำหนดเขตอุทยานแห่งชาติแล้ว
เป็นกรณีที่เอกชนเข้ามาดำเนินการยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมตลอดถึงก่นสร้างแผ้วถางป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้อห้ามตามมาตรา
16 (1) และ (13) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฯ
และเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 16
(1) (4) และ (13) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฯ ดังนั้น
การก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัดฯ
จึงเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ
และโดยที่มาตรา 22
แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้มีอำนาจสั่งให้ทำลายหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งอื่นใดในอุทยานแห่งชาติที่ผิดไปจากสภาพเดิมหรือทำให้สิ่งนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม
กรมอุทยานแห่งชาติฯ
จึงไม่มีอำนาจรับมอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัดฯ
จึงสรุปได้ว่า
หากเป็นรีสอร์ทที่บุกรุกอุทยานแล้วย่อมเป็นสิ่งปลูกสร้างที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ต้องปฎิบัติตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ
เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯต้องเข้ารื้อถอนตามมาตรา 22 พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504
ไม่สามารถที่จะยกเป็นกรรมสิทธิ์ให้แก่รัฐและปล่อยให้ผู้กระทำความผิดเช่าได้
ฉะนั้น
แม้ว่าในประเด็นนี้จะยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลออกมาเป็นบรรทัดฐานว่าการกระทำดังกล่าวที่ให้กรรมสิทธิ์ในรีสอร์ทบุกรุกป่าตกแก่รัฐ
แล้วรัฐค่อยปล่อยให้เอกชนเช่านั้นทำได้หรือไม่
แต่การที่มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เป็นการผูกพันให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตาม
และเป็นการเตือนสติของนายทุนทั้งหลายที่ต้องการสร้างรีสอร์ทในเขตอุทยานแห่งชาติ
การกระทำของท่านจะเป็นการบุกรุกอุทยานซึ่งเป็นความผิดทางอาญา
และรีสอร์ทที่คุณสร้างขึ้นจะต้องถูกรื้อถอนตามกฎหมาย
เข้าไปเยี่ยมชมเพจ เที่ยวไทยอุ่นใจ ไม่ทำร้ายป่า ทาง facebook ของเราได้ที่ : http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/192501247557786
นี่ก็เป็นเป็นภาพตัวอย่างการรื้อถอนรีสอร์ ทบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลา นค่ะ! เห็นอย่างนี้แล้วก่อนไปเที่ ยววังนำ้เขียว อย่าลืมตรวจสอบ list รายชื่อรีสอร์ทก่อนเข้าพักใ ห้ดีนะคะ ว่ากำลังอยู่ในระหว่างการรื ้อถอนหรือเปล่า!~ มาเที่ยวกันอย่างอุ่นใจดีกว ่าค่ะ ❤
เข้าไปเยี่ยมชมเพจ เที่ยวไทยอุ่นใจ ไม่ทำร้ายป่า ทาง facebook ของเราได้ที่ : http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/192501247557786
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น